สารสกัดน้ำเมือกหอยทาก ประโยชน์สุดล้ำที่คุณควรรู้

สารสกัดน้ำเมือกหอยทาก ประโยชน์สุดล้ำที่คุณควรรู้

น้ำเมือกหอยทาก ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยในการลดแรงเสียดทานในขณะที่พวกมันคลานไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยสารนี้มีคุณสมบัติช่วยสมานแผลที่อาจจะเกิดจากการขูดขีดเสียดสี กับพื้นผิวที่มีความขรุขระ ซึ่งเมื่อเปลือกของหอยมีการเสียหาย มันจะใช้น้ำเมือกเข้าไปซ่อมแซมและสร้างเปลือกขึ้นมาใหม่ มาดูประโยชน์เหล่านี้กัน

เมือกหอยทากคืออะไร

เมือกที่ได้จากหอยทากนั้นเป็นสารคัดหลั่งที่ผลิตออกมาเพื่อใช้ประโยชน์ ในการป้องกันผิวของมัน ทั้งในขณะเคลื่อนที่ ปกป้องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงลดการระคายเคืองร่างกายจากพื้นผิวต่าง ๆ ที่ต้องสัมผัสอยู่ตลอดตลอดเวลา นอกจากนี้ยังช่วยสมานแผล และลดแรงเสียดทาน ยิ่งไปกว่านั้นหากเปลือกหอยได้รับความเสียหาย น้ำเมือกหอยทากในส่วนของแมนเทิล (Mantle) ที่อยู่ถัดจากเปลือกหอย จะเข้าไปซ่อมแซมและสร้างขึ้นมาใหม่ เป็นพลังแห่งการฟื้นฟูที่มีความน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก จากการศึกษาวิจัยพบว่า สารสกัดที่ได้จากหอยทาก มีคุณสมบัติเป็นสารในการต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยบำรุงฟื้นฟูผิว โดยจะเข้าไปซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย ช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ สร้างความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นผิวได้เป็นอย่างดี และช่วยเร่งการสร้างสารที่สามารถหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ ซึ่งมีสารต่าง ๆ ได้แก่

                  อัลแลนโทอิน (Allantoin) เป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดการระคายเคืองผิว ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำทำให้ผิวชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพลง ลดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี รวมถึงเร่งการผลิตเซลล์ผิวใหม่

                  กรดไฮยาลูโรนิก มีสรรพคุณในการดูดน้ำ และพยุงเนื้อเยื่อให้มีความแข็งแรง ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง ชุ่มชื่น

                  กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) จะเข้าไปขจัดเซลล์ผิวต่าง ๆ ที่ตายแล้ว อีกทั้งยังควบคุมความมันของผิวอีกด้วย

                  โปรตีน เป็นอาหารของผิว ช่วยปรับสภาพผิวให้มีความสวยกระจ่างใส

                  เปปไทด์ มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและเชื้อรา

นอกจากจะมีคุณสมบัติดังกล่าวแล้ว ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน ในการเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิว ด้วยคุณประโยชน์เหล่านี้ ปัจจุบันจึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเป็นจำนวนมากหลายยี่ห้อ

หอยทากพันธุ์ไทย เหมาะกับผิวพรรณคนเอเชีย

ศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ ปัญหา อาจารย์ประจำในภาควิชาชีววิทยา ผู้เชี่ยวชาญเรื่องของหอยต่าง ๆ ได้ทำการศึกษาและค้นคว้าเรื่องนี้ต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 ปี ทำให้พบว่า หอยทากสายพันธุ์ของประเทศไทยมีอยู่มากถึง 600 สายพันธุ์ ซึ่งมีคุณสมบัติที่พิเศษกว่าหอยทากในต่างประเทศ เนื่องจากเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ต้องพบเจอกับอากาศร้อนชื้น จึงทำให้สารสกัดน้ำเมือกหอยทากมีฤทธิ์ต้านเชื้อโรค และมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ส่วนความเข้มข้นเมื่อเทียบกันแล้วก็มีมากกว่าเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีสารที่ให้ประสิทธิภาพสูงถึง 30 เท่าอีกด้วย

ด้วยคุณสมบัติต่าง ๆ ของสารสกัดน้ำเมือกหอยทาก ที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก นอกจากนำไปใช้สำหรับบำรุงผิวให้สวยกระจ่างใสแล้ว ยังถูกนำมาใช้ในด้านต่าง ๆ มากมาย เช่น รักษาแผล โดยนำไปทดสอบกับคนไข้ที่มีแผลไฟไหม้ เมื่อทาวันละ 2 ครั้ง เป็นประจำทุกวัน พบว่าแผลหายได้ภายใน 14 วัน ในวงการแพทย์จะนำมาใช้เป็นยาชา เพื่อช่วยให้บาดแผลไม่เจ็บ ซึ่งได้มาจากหอยทากทะเล รวมถึงช่วยรักษาโรคทางเดินหายใจ กระตุ้นให้กล้ามเนื้อรู้สึกผ่อนคลาย หายใจได้โล่งขึ้น รักษาอาการคัดจมูก เป็นต้น

#เมือกหอยทาก #หอยทาก #ของมันต้องมี