โลชั่น ก็ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย ที่เน้นในเรื่องของการบำรุงผิวและกันแดด แต่รู้หรือไม่คะว่ายุคสมัยนี้โลชั่นนอกจากจะบำรุงผิวและกันแดดแล้ว ยังส่งกลิ่นหอมติดทนเหมือนฉีดน้ำหอมอีกด้วย โดยเราจะเรียกโลกชั่นชนิดนี้ว่า โลชั่นน้ำหอม หากสาวๆคนไหนที่อยากเพิ่มความมั่นใจในเรื่องของกลิ่น โลชั่นน้ำหอมก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ และวันนี้เราก็ได้ถือโอกาสมาแนะนำ 3 โลชั่นน้ำหอมจากแบรนด์พี่ไทยเราเอง จะมีแบรนด์ไหนบ้างนั่น มาเริ่มดูกันเลย
Sweet Dew Perfume Lotion
เป็นโลชั่นหอมจากแบรนด์ Cathy Doll โดยโลชั่นน้ำหอมตัวนี้เชื่อว่าสาวๆ ต้องเคยพบเคยเจอกันมาบ้างแล้วในร้านค้าชั้นนำทั่วไป จุดเด่นคือมีสารสกัดของน้ำมันเมล็ดทับทิม ที่ช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูผิวแห้ง หยาบกร้าน อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอย กักเก็บความชุ่มชื่น นอกจากนี้ยังมีกรดแอสคอบิกและอาร์บูติน ที่ช่วยให้ผิวของสาวๆ ผิวกระจ่างใส ด้วยกลิ่นเกรปฟรุ๊ต ที่หอมหวานแถมยังติดทนนานตลอดวัน
ราคา 250 ml 1,490 บาท
White Tea & Camellia Body Lotion
โลชั่นน้ำหอมตัวต่อมาที่เราหยิบมาเพิ่มความหอมให้สาวๆ ในวันนี้มาจากแบรนด์ HARNN มีจุดเด่นคือมีส่วนผสมทรงคุณประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 3, วิตามินบี 5 และวิตามินซี ทั้งยังมีกรด BHA และ AHA ที่มีประโยชน์ต่อผิวอีกด้วย เนื้อสัมผัสของโลชันเป็นเนื้อบางเบา ซึมง่าย เข้ามาช่วยป้องกันการสูญเสียของโปรตีนในชั้นผิว และเสริมสร้างให้เซลล์ผิวหนัง มีความแข็งแรง เรียกได้ว่าแค่ผิวสวยอย่างเดียวไม่พอ แต่แบรนด์นี้ยังเน้นความแข็งแรงและสุขภาพผิวที่ดีด้วย ราคาอาจจะแรงไปหน่อยแต่เทียบด้วยคุณภาพก็ถือว่าคุ้มค่าราคาที่เสียไปนะคะ
ราคา 200 g 360 บาท
Blissful Soul Restorative Body Lotion
โลชั่นน้ำหอมจากแบรนด์ Lalil มีจุดเด่นคือมีสารสกัดที่มีประโยชน์จากน้ำมันจมูกข้าว น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน และเชียร์ บัตเทอร์ ที่จะเข้ามาช่วยฟื้นบำรุงผิวของเราให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น พร้อมทั้งส่งกลิ่นหอมจากพิมเสนและจันทน์เทศ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เบาสบายผิว
ราคา 200 g 360 บาท
หากเบื่อโลชั่นแบบปกติที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน แนะนำลองเปลี่ยนมาใช้โลชั่นน้ำหอม ที่นอกจากจะช่วยบำรุงผิวแล้ว ยังมาพร้อมกลิ่นหอมเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับเราอีกด้วย โดยโลชั่นน้ำหอมแต่ละแบรนด์ก็จะส่งกลิ่นหอมและมีสารสกัดบำรุงผิวที่แตกต่างกัน ก่อนซื้อก่อนใช้ก็เลือกที่เหมาะกับเรานะคะ
#โลชั่นน้ำหอม #เคาน์เตอร์แบรนด์ #ของมันต้องมี