โดยแฮนด์ครีมคือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมือที่ให้ความชุ่มชื้นด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ที่จะเป็นตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของมือ และด้วยความที่มือเป็นส่วนที่ต้องหยิบจับของต่าง ๆ จึงทำให้อาจเกิดปัญหาผิวมือแห้งตึงและหยาบกร้านตามมาได้ ซึ่งแฮนด์ครีมก็สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยหากสาว ๆ คนไหนที่กำลังมีปัญหาผิวมือแห้งตึงเพราะต้องนั่งทำงานในห้องแอร์เย็น ๆ วันนี้เราก็มีแฮนด์ครีมเคาน์เตอร์แบรนด์ มาแนะนำกัน จะมีของแบรนด์อะไรบ้างนั่น เรามาดูกันเลย
ที่มาของภาพ : www.katiebeautyshop.com
SHISEIDO Urea 10% Hand Cream Hand and Feet
เป็นแฮนด์ครีมของญี่ปุ่นที่จะเข้ามาช่วยบำรุงทั้งผิวมือและผิวเท้าที่แห้งกร้านให้กลับมาชุ่มชื้นด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งหากสาว ๆ คนไหนกำลังเจอกับปัญหาผิวมือแห้งกร้านหรือปัญหาจมูกเล็บหลุดลอก แฮนด์ครีมตัวนี้ก็ช่วยได้ดีเลย และนอกจากนี้ยังช่วยทำให้เล็บของเรามีความแข็งแรงและแก้ปัญหาส้นเท้าแตกได้อีกด้วยนะ ซึ่งเนื้อสัมผัสของแฮนด์ครีมตัวนี้จะมีความเข้มข้นสูงและดูดซับความชื้นภายในอากาศมาเก็บไว้ที่ผิวได้ ราคา 60 กรัม 249 บาท
ที่มาของภาพ : www.mamonde.com
Mamonde Hand Perfume Collection
เป็นอีกหนึ่งแฮนด์ครีมแบรนด์จากญี่ปุ่นที่นอกจากแพ็คเกจจะสวยแล้ว เนื้อครีมยังมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติที่ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นยาวนาน พร้อมทั้งมีกลิ่นหอมของดอกไม้อีกด้วย หากสาว ๆ คนไหนอยากมีผิวมือเนียนนุ่ม ก็แนะนำให้ทาแฮนด์ครีมตัวนี้ลงบนมือเป็นประจำก็เห็นได้ชัดเลยว่าผิวมือนุ่มซุ่มชื้นขึ้น ที่สำคัญเนื้อสัมผัสไม่เหนียว นุ่มเบาสบายและส่งกลิ่นหอมอ่อนโยน ราคา 30 ml 1,200 บาท
ที่มาของภาพ : www.thesundaygirl.com
Clinique Deep Comfort Hand and Cuticle Cream
เป็นแฮนด์ครีมสูตรบำรุงผิวมือและจมูกเล็บ ที่เนื้อครีมให้สัมผัสที่มีความเนียนนุ่มและซึมซาบเร็ว จะมาช่วยปกป้องผิวจมูกเล็บและเล็บของเราให้มีความนุ่มและแข็งแรง อีกทั้งยังให้ความชุ่มชื่นยาวนานตลอดทั้งวัน และยังช่วยป้องกันการระคายเคืองที่อาจเกิดจากสภาพแวดล้อมอีกด้วย จึงนับเป็นแฮนด์ครีมที่อยากจะแนะนำสำหรับสาว ๆ เลยราคา 125 ml 2,000 บาท
หากสาว ๆ คนไหนกำลังเจอกับปัญหามือแห้งกร้าน ก็ลองเลือกใช้แฮนด์ครีมแก้ปัญหาดูนะคะ เพียงแค่เราทามือด้วยแฮนด์ครีมเป็นประจำ ก็จะช่วยให้ผิวมือสัมผัสเนียนนุ่มขึ้นซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีคุณประโยชน์และราคาที่แตกต่างกัน ก็เลือกใช้ตามความเหมาะสมกันนะคะ
#แฮนด์ครีมเคาน์เตอร์แบรนด์ #เคาน์เตอร์แบรนด์ #ของมันต้องมี